คนร้ายตระเวนขโมยแบตเตอรี่รถยนต์ คืนเดียวมีผู้เสียหายนับสิบราย โดยจะเลือกรถยนต์ที่มีสภาพเก่าก่อนจะขันน็อตเปิดฝากระโปรง ถอดแบตเตอรี่หนีไป จนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
5 มี.ค. 68 ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.68 เวลา 02.40น. สามารถบันทึกภาพคนร้าย ได้ขับรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ไปจอดข้างรถยนต์กระบะอีซูซุ บริเวณอาคารผู้โดยสาร ภายใน บขส.เก่า ฝั่งถนนเทพารักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น ก่อนที่คนร้ายจะเปิดกระโปรงรถยนต์ แล้วใช้เครื่องมือขับเอาแบตเตอรี่รถยนต์ ก่อนที่จะหลบหนีไป นายสมเชษฐ์ ไตรยะสุทธิ์ อายุ 53 ปี ชี้ให้ดูภายในห้องเครื่องรถยนต์กระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 3386 ขอนแก่น ที่จอดภายในซอยเทพารักษ์ 11 หลังถูกคนร้าย ได้ขโมยถอดแบตเตอรี่รถยนต์ไป จนทำให้ต้องจอดรถทิ้งไว้ใต้ต้นมะขามเทศภายในซอย เนื่องจากไม่สามารถที่จะใช้งานได้
นายสมเชษฐ์ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค. 68 ตนเองได้จออดรถไว้ภายในซอยตามปกติ จากนั้นช่วงเช้าวานนี้ตนเองเตรียมที่จะใช้รถยนต์ และเมื่อเดินมาแล้วจะสตาร์ทเครื่อง แต่สตาร์ทเครื่องไม่ติด จากนั้นได้ดูที่หน้าปัดพบว่าไม่มีไฟสัญญาณขึ้น เมื่อมาเปิดฝากระโปรงรถ ก็ต้องตกใจเพราะแบตเตอรี่รถยนต์หายไปทั้งลูก เหลือเพียงน็อตยึดแบตเตอรี่ไว้ดูต่างหน้าเท่านั้น จากการได้พูดคุยกับชาวบ้านบอกว่า ในคืนวันดังกล่าวมีคนร้ายตระเวนขโมยแบตเตอรี่รถยนต์หลายคัน บนถนนเทพารักษ์ ตั้งแต่ชุมชนเทพารักษ์ 2 ไปจนถึง บขส.เก่า รวมผู้เสียหายประมาณ 5 คน ซึ่งคนร้ายจะเลือกรถที่จอดในที่ลับตา และเลี่ยงกับวงจรปิด ซึ่งซอยที่ตนเองจอดรถเคยมีเหตุคนร้ายทุบกระจกรถ แล้วขโมยสิ่งของมีค่าเป็นประจำ จากการที่ดูจากพฤติกรรมคนร้ายแล้วน่าจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ ในการซ่อมรถยนต์ จึงสามารถที่จะถอดน็อตที่ใช้ล๊อตจุดเปิดประโปรงรถยนต์ได้
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ให้ชุดสืบสวน ได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่องหลายสิบชั่วโมง จนทราบตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุโดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบรีโอ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขร 8831 ขอนแก่น เป็นยานพาหนะ จึงได้ติดตามไปตามเส้นทางกล้องวงจรปิด กระทั่งต่อต่อเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 68 เวลาประมาณ 22.20 น. ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ติดตามจนพบกับคนร้ายรายดังกล่าวที่บริเวณถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง เมือง จ.ขอนแก่น จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาคือนายวีรัช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นั่งอยู่บนรถเก๋งคันดังกล่าว สอบถามรับว่าเป็นบุคคลคนที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดจริง และให้การับว่า ก่อเหตุในลักษณะมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันครับ หลังจากที่ขโมยมาแล้ว จะนำไปวางขายโดยติดป้ายราคา พร้อมเลขบัญชีธนาคาร และนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมกตัว โดยกล่าวหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายหรือถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวให้ติดให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ต่อไป.
